ทฤษฏีสี


ทฤษฏีสี

เราจะเริ่มเรียนทฤษฏีสีได้อย่างไร 

     โดยปรกติแล้ว ทุกคนโดยทั่ว ๆ ไป ต่างก็รู้จักสีด้วยกันทั้งนั้น และทุกคนก็สามาถบอกได้ว่า สีแดง สีเหลือง สีเขียว สีฟ้า สีดำ สีขาว และสีอื่น ๆ ฯลฯ แต่ก็เป็นเพียงได้รู้จักสี และเรียกชื่อสีที่ถูกต้องให้เป็นสัญลักษณ์เฉพาะ ตัวเท่านั้น จะมีสักกี่คนที่จะรู้จักสีได้ลึกซึ้ง ถ้าจะคิดเฉลี่ยแล้ว อาจจะมีผู้รู้เพียงไม่กี่เปอร์เซ็นต์ ทั้งนี้เป็นเพราะ เรายังไม่มีตำราเรียนกันนั่นเอง จนถึงปัจจุบันนี้วงการศึกษายังมองข้ามหลักวิชา ที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต ประจำวันนี้อยู่ และผู้เขียนเองก็ได้ตระหนักดีว่า เด็กไทยยังขาดความรู้เรื่องสี จึงได้ตัดสินใจเขียนตำราเล่มนี้ ขึ้น เพื่อเป็นทฤษฎีสีสำหรับใช้ศึกษาเรื่องสีเบื้องต้น และผู้เขียนตั้งใจจะให้เป็นตำราชี้แนวทางการศึกษาเรื่องสีให้ ถูกต้อง และเป็นตำราเล่มแรกที่พิมพ์สีทั้งเล่ม

ต่อไปเราจะเริ่มต้นเรียนรู้เรื่องความเป็นมาของต้นกำเนิดของ "ทฤษฎีสี" ซึ่งเป็นหลักวิชาได้ศึกษากันต่อ ๆ มา

3 เหลี่ยมสี TriaangcI Princries
นำเอาแม่สีหลัก หรือสีขั้นที่ 1( PRIMERY ) คือ แดง เหลือง ฟ้า มาวางที่มุมของ 3 เหลี่ยมด้านเท่า สีละมุม ( ดูภาพประกอบ )

ภาพเขียนที่ใช้ชุดที่ 2 Secondaries

 

สังเกตดูภาพเขียนที่แสดงอยู่นี้ เราใช้สีเพียง 3 สี ด้วยสีขั้นที่ 2 คือ สีส้ม สีม่วง สีเขียว นี่เป็นการใช้สีชุดอีก แบบหนึ่งเราจะเห็นว่าสีมีความสัมพันธ์ต่อกัน

3 เหลี่ยมสี Tridteries
 

ในขั้นที่ 3 นำสี S กับสี P มาผสมกัน สีก็จะเกิดขึ้นใหม่ในช่องว่างระหว่าง S กับ P อย่างเช่น ระหว่างเหลือง แดง เอาสีเหลืองผสมส้มก็จะได้สีเหลืองส้ม Yellwo Orange และสีส้มผสมกับสีแดง ก็จะได้สีแดงส้ม Red Orange และสีแดงผสมม่วงก็จะได้สีม่วงแดง Red Violet และสีม่วงผสมฟ้าก็จะได้สีม่วงน้ำเงิน และสีฟ้าผสมเขียวก็จะได้ สีฟ้าเขียว Blue Green เขียวผสมเหลืองก็จะได้เขียวเหลือง Yellwo Green

สีกลาง Muddy Colour
 

สีขั้นนี้เป็oการผสมสี Primeries ทั้ง 3 เข้าด้วยกัน สีที่ได้จะเป็นสีกลาง คล้ายสีโคลน เราเรียกสีนี้ว่าสี Muddy

สีใกล้เคียง Ncar Colour ที่เป็นวรรณะ แนวทางที่ 1

 

สีใกล้เคียงที่เกิดจากแนวสี 3 ด้านของ 3 เหลี่ยมสี ( ดู 3 เหลี่ยมสีขั้นที่ 3 ) อีกครั้งหนึ่ง เพื่อความเข้าใจว่สี แต่ละวรรณะนั้นได้มาจากแนวสีของ 3 เหลี่ยมสีแต่ละด้าน

สีใกล้เคียง Near Colour

 
สีใกล้เคียงแนวทางที่ 1 นี้ เราจัดสีให้สีเป็นคู่ ๆ ดังตัวอย่างเช่น สีคู่ที่แสดงอยู่นี้เป็นสเต็ปสีที่ได้นำมาตาม แนวสีของ 3 เหลี่ยมสี สีแต่ละคู่นั้น เราจัดให้เป็นคู่ ๆ จนครบแนว 3 เหลี่ยมสีทั้ง 3 ด้าน ตามตัวอย่างที่แสดงไว้แล้ว

ภาพที่เขียนด้วยสีคู่ใกล้เคียง แนวทางที่ 1


ภาพเขียนที่ใช้สีใกล้เคียงข้ามสเต็ป แนวทางที่ 2


สีใกล้เคียงข้ามสเต็ป แนวทางที่ 3
สีใกล้เคียงแนวทางที่ 3 เกิดจากการจัดสีที่เป็นคู่แบบเว้นช่วง หรือข้ามสเต็ป ดังตัวอย่างต่อไปนี้

 
การจัดจัดสีที่ใกล้เคียงให้เป็นคู่ๆ นี้ ก็เพื่ออำนวยประโยชน์ในการนำออกแบบและเขียนภาพ ทั้งนี้ก็เพราะว่า เวลาใช้สีจะได้ไม่ใช้ อย่างเดาสุ่ม การเขียนเมื่อร่างภาพเสร็จแล้ว ก็นึกถึงสีที่จะลงว่า ควรจะใช้สีแนวทางใด เมื่อพิจจารณาแล้วกำหนดสีลงไปเป็นชุด เป็นทีม ภาพ ที่ระบายสีก็จะมีความสำคัญขึ้น

สีตรงข้าม Oposit Colour
สีตรงข้ามมีทั้งหมด 5 แนวด้วยกัน และชุดสีต่อไปนนี้ เป็นแนวทางที่1 คือสีตรงข้าม ระหว่างสีขั้นที่ 1 กับสีขั้นที่ 2 (Primeries กับ Secondaries) ได้แก่ P1 - S7, P5-S11, และ P9 S3


การเขียนภาพด้วยชุดวรรณะสี ชุดที่ 1 วรรณะเหลือง-แดง

 

สังเกตสีที่ลงในภาพจะมีทั้งหมด 5 สีด้วยกัน นี่ก็เป็นอีกวิธีการหนึ่งในการเลือกใช้สีชุดเขียนภาพ


การเขียนภาพด้วยชุดวรรณะสี ชุดที่ 2 วรรณะแดง-ฟ้า

 

ภาพเขียนที่ใช้สีชุดของวรรณะสี แดง-ฟ้า ในภาพจะเห็นว่าสีต่างๆ มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ไม่มีความขัดแย้ง ขัดต่อความรู้สึก


การเขียนภาพด้วยชุดวรรณะสี ชุดที่ 1 วรรณะเหลือง-ฟ้า

 

ภาพเขียนที่ใช้สีชุดของวรรณะสี ในภาพจะเห็นสีต่างๆมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน


การหาค่าของสีแดงสีเดียว

 

ภาพเขียนที่ใช้ชุดค่าขิงสีแดงคือการนำเอาสีใดสีหนึ่ง มาหาค่อต่างกันให้เป็นขั้นหลายสเต็ป ในที่นี้จะแสดงหาค่าต่างให้ เกิดขึ้นเพียง 5 ขั้น ต่อสี 1 สี วิธีการ ถ้าเป็นสีน้ำ ก็ใช้น้ำผสมลดค่าสีให้อ่อนลง ทีละขั้น จากแก่มาอ่อน ถ้าเป็นสีโปสเตอร์ก็ใช้สีขาวมาผสมก


การหาค่าของสีเหลืองสีเดียว

 

ภาพที่ใช้เขียนชุดค่าของสีเหลือง


การหาค่าของสีฟ้าสีเดียว
 

นี่ก็เป็นอีกแบบหนึ่งที่เขียนภาพด้วยสีชุดค่าของสีเดียว


ตระกูลของสี สีได้ถูกแบ่งออกเป็น 3 ตระกูลด้วยกัน และมีวิธีสร้าง Colour Famiries ตระกูลของสีได้ 2 วิธีด้วยกัน
 

ตระกูลสีเหลืองYellow Famiries วิธีที่ 1 แดง 25% ฟ้า25 % เหลือง 50% จะได้เป็นสีเปลือกมะนาวแห้ง


ตระกูลสีแดง จะมีสีเหลือง 25% ฟ้า 25% แดง 50% ผสมกัน ก็จะได้สีใหม่ขึ้นมาเป็นสีเปลือกละมุด


 

และวิธีที่ 2 แดง 50% เขียว 50% ก็จะได้สีเปลือกละมุดเช่นเดียวกัน


ตระกูลสีฟ้า ในวิธีที่ 1 จะมีสีเหลือง 25% แดง 25% ฟ้า 50% เมื่อผสมกันเข้า ก็จะได้สีใหม่ขึ้นมา คือ สีโอลีฟ ลักษณะสีฟ้าอมเขียว มีแดง เจือปนเล็กน้อย

 

วิธีที่ 2 ฟ้า 50% ส้ม 50% ผสมกันจะได้สีโอลีฟ


การฆ่าสี Brake Colour การฆ่าสีคือการเปลี่ยนค่าของสีให้เป็นอีกลักษณะหนึ่ง และหยุดความสดใสของสี วิธีฆ่าสี ก็คล้ายกับการหาค่าของสี มีข้อแตกต่างก็ตรงที่ว่า การหาค่าของสีนั้นใช้เพียงสีเดียว แต่การฆ่าใช้สี 2 สี หาค่ารวมกัน ดังตัวอย่างต่อไปนี้
ตัวอย่างที่ 1 การฆ่าสีด้วยสี
ตัวอย่างที่ 2 ระหว่างฟ้ากับส้ม
ตัวอย่างที่ 3 ระหว่างเหลืองกับม่วง


สีตัดกัน Contras สีตัดกันที่ดีคือ ขาวกับดำ

 

สีตัดกัน คือสีที่มีความเข้มรุนแรงและโดดเด่นต่างกัน การตัดกันของสีที่มีอยู่หลายทางด้วยกัน อย่างเช่น ตัดกันด้วยสีตรงข้าม ตัดกันด้วยสี Primerics ต่อ Primeries หรือ Secondaries กับ Primeries สีตัดกันที่ดีต้องมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน


ความกลมกลืนของสี Hamonies ความกลมกลืนของสีเกิดขึ้นได้หลายแนวทางด้วยกัน แต่ละแนวทางนั้นต้องเป็นลักษณะเฉพาะตัว เฉพาะกลุ่ม ยกตัวอย่างเช่น

1. ความกลมกลืนของสีวรรณเดียวกัน 2. ความกลมกลืนของสีตรงกันข้าม

3. ความกลมกลืนของสีใกล้เคียง 4. ความกลมกลืนของสีองค์ประกอบ

5. ความกลมกลืนของสีต่างวรรณะ 6. ความกลมกลืนของสีตัดกัน